เพนกวิน ตะโกน “ไม่มีสิทธิคุกคามประชาชน” ระหว่างตำรวจบุกจับคดีเดียวกับ อานนท์-ไมค์ แต่ถูกตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” เพิ่มด้วย
กลุ่มผู้สนับสนุนนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ชุมนุมหน้า สน. สำราญราฎร์ เรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวเขา หลังตำรวจแสดงหมายศาลอาญาที่ 1172/2563 เข้าจับกุมตัวนายนายพริษฐ์
ตำรวจนอกเครื่องแบบได้เข้าแสดงบัตรประจำตัว และแนะนำตัวว่าเป็น "สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนนครบาล" ก่อนจับกุมนายพริษฐ์ในเวลา 16.20 น. ของวันที่ 14 ส.ค. จากย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี ในระหว่างนั่งรถยนต์ของเพื่อน เพื่อเตรียมขึ้นเวทีปราศรัยในแฟลชม็อบที่ใช้ชื่อว่า "ทุเรียนนนท์ ไม่ทนเผด็จการ" ที่ท่าน้ำนนทบุรี หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี
ก่อนนำตัวนายพริษฐ์ไปยัง สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน และควบคุมตัวไปถึง สน.สำราญราษฎร์ ในเวลา 18.34 น. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวน โดยในช่วงแรกนายพริษฐ์ยังไม่ยอมลงจากรถ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาเจรจา ขณะเดียวกันมารดาของผู้ต้องหารายนี้ก็รุดเดินทางมาให้กำลังใจลูกด้วย
นายตำรวจนอกเครื่องแบบในชุดเสื้อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นผู้แสดงตัวเข้าจับกุมนายพริษฐ์ได้แจ้งรายละเอียดตามหมายศาลอาญารวม 8 ข้อหาต่อหน้าผู้ต้องหา ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นข้อหาเดียวกับนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย" ซึ่งถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ได้รับการประกันตัวออกมา ทว่าในส่วนของนายพริษฐ์ถูกตั้งข้อหา "ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นฯ" เพิ่มมาด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่อย่างใด หลังมีช่างตัดผมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเขาที่ สภ.เมืองเลย จ. เลย เมื่อ 12 ส.ค.
ข้อกล่าวหาที่ปรากฏในหมายจับ ลงวันที่ 6 ส.ค. 2563 มีรายละเอียดดังนี้
- ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
- ร่วมกันชุมนุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด
- ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีสถานที่แออัด ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
- ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด
- ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
- ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน
- ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อกายหรือจิตใจ
บีบีซีไทยเข้าใจว่าหมายจับที่ออกมา เป็นผลจากการเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "เยาวชนปลดแอก" เมื่อ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากในสำนวนของตำรวจในคดีนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ ได้อ้างถึงชื่อ "นายพริษฐ์กับพวก" โดยตลอด จึงถือเป็นแกนนำคนที่ 3 ที่ถูกออกหมายจับ
หลังการชุมนุมยุติลง มีรายงานข่าวปรากฏในสื่อหลายสำนักว่าเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลในระหว่างผู้ชุมนุมผลักดันแผงเหล็กกระแทกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลหญิงสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) หรือที่รู้จักในชื่อ "กองร้อยน้ำหวาน" ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย
ต่อมาเวลา 21.24 น. ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหานายพริษฐ์รวม 10 ข้อหา ซึ่งภายหลังแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น "เพนกวินปฏิเสธไม่ขอให้การใดใดในวันนี้ โดยทั้งทนายและเพนกวินไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา"
สำหรับข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นในชั้นพนักงานสอบสวนคือ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน กรณีไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ
ประกาศลั่น "ไม่รับอำนาจ" และ "ไม่มีสิทธิ์คุกคามประชาชน"
นายพริษฐ์เป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ที่ร่วมเคลื่อนไหวจัด "แฟลชม็อบ" ในหลายจุด และยังเป็นผู้ปราศรัยเวียนไปตามเวทีต่าง ๆ
ในระหว่างการจับกุม รายละเอียดทั้งหมดถูกถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก "เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak" โดยที่ตำรวจบอกกับเขาและเพื่อนว่า "ถ่ายได้ ไม่เป็นไร แต่ขออย่ารบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่" และเรียกเขาว่า "น้องเพนกวิน" แทบทุกคำ ก่อนระบุในตอนท้ายว่าขอเชิญตัวไปยัง สน.ที่มีอำนาจรับผิดชอบคดีนี้คือ สน. สำราญราษฎร์
"ผมไม่ยอมรับกระบวนการใด ๆ ทั้งปวง รวมถึงผมไม่ยอมรับอำนาจของพวกพี่ด้วย ดังนั้นพี่ไม่มีสิทธิสั่งผม" และ "ไม่มีสิทธิคุกคามประชาชน" เพนกวินปฏิเสธอำนาจการจับกุม
แต่นายตำรวจชุดดังกล่าวได้ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หากไม่ยอมจะถือว่าขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ สุดท้ายเขาก็ถูกตำรวจช่วยกัน "อุ้ม" และไถตัวไปขึ้นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่มีตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด
กลุ่มผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ
หลังทราบข่าวการจับกุมนายพริษฐ์ ผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งเดินทางมาที่ สน. สำราญราษฎร์ เพื่อให้กำลังใจเขา พร้อมกดดันตำรวจไม่ให้ส่งตัวนายพริษฐ์ไปคุมขังค้างคืนที่ สน. ตลิ่งชัน หลังมีข้อมูลดังกล่าวหลุดลอดออกมา ที่สุดตำรวจตัดสินใจควบคุมตัวเขาไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ ตามเดิม
นายภาณุพงศ์ ผู้ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากการประกันตัว เดินทางมาที่ สน.สำราญราษฎร์ พร้อม น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำ สนท. มาปราศรัยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ "ปล่อยเพื่อนเรา"
ขณะเดียวกันมี ส.ส. ฝ่ายค้านหลายคน รวมถึงผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ และอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ได้เดินทางมาที่ สน. ดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมในการทำเรื่องประกันตัวผู้ต้องหารายนี้
ด้าน พล.ต.ต. สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงชี้แจงกรณีการจับกุมนายพริษฐ์ ว่าเป็นผลจากการจัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. หลังตำรวจจับกุมนายอานนท์ กับนายภาณุพงษ์ ตามหมายจับศาลอาญาไปก่อนหน้า ยืนยันว่าการดำเนินคดีเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ และหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นจะคุมขังที่ สน.สำราญราษฎร์ ตามกรอบกฎหมาย 48 ชม. ต้องส่งตัวฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ต่อไป