อาชิกางะ ทากาอูจิ
อาชิกางะ ทากาอูจิ 足利尊氏 | |
---|---|
อาชิกางะ ทากาอูจิ | |
โชกุนคนแรกแห่งอาชิกางะ | |
ค.ศ. 1338 - 1358 | |
ก่อนหน้า | ตำแหน่งใหม่ |
ถัดไป | อาชิกางะ โยชิอากิระ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 18 สิงหาคม ค.ศ. 1305 |
อสัญกรรม | 7 มิถุนายน ค.ศ. 1358 (52 ปี 293 วัน) เกียวโต |
บิดา | อาชิกางะ ซาดาอูจิ |
มารดา | อูเอซูงิ คิโยโกะ |
บุตร-ธิดา | อาชิกางะ โยชิอากิระ |
อาชิกางะ ทากาอูจิ (อักษรโรมัน: Ashikaga Takauji, ญี่ปุ่น: 足利尊氏) เป็นโชกุนคนแรกแห่งรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ
ประวัติ
[แก้]วัยเยาว์
[แก้]ทากาอูจิ เกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1305 เป็นบุตรชายที่สองของอาชิกางะ ซาดาอูจิ (ญี่ปุ่น: 足利 貞氏; โรมาจิ: Ashikaga Sadauji) ซึ่งเป็นโกเกนิง (ญี่ปุ่น: 御家人; โรมาจิ: Gokenin) หรือซามูไรซึ่งทำงานรับใช้รัฐบาลโชกุนคามากูระ กับนางอูเอซูงิ คิโยโกะ (ญี่ปุ่น: 上杉清子; โรมาจิ: Uesuki Kiyoko) ซึ่งเป็นภรรยาน้อยของซาดาอูจิ ทากาอูจิเกิดที่แคว้นทัมบะ อันเป็นบ้านเกิดของมารดา เดิมชื่อว่า ยูตาโร (ญี่ปุ่น: 又太郎; โรมาจิ: Yūtarō) ยูตาโรมีพี่ชายต่างมารดาชื่อว่า อาชิกางะ ทากาโยชิ (ญี่ปุ่น: 足利 高義; โรมาจิ: Ashikaga Takayoshi) ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของซาดาอูจิซึ่งเกิดกับภรรยาเอก แต่ทากาโยชิเสียชีวิตเมื่อค.ศ. 1317 ยูตาโรจึงขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลอาชิกางะแทนที่พี่ชาย นอกจากนี้ทากาอูจิยังมีน้องชายร่วมมารดากันชื่อว่า อาชิกางะ ทาดาโยชิ (ญี่ปุ่น: 足利 直義; โรมาจิ: Ashikaga Tadayoshi) ค.ศ. 1319 ยูตาโรผ่านพิธีเก็มปูกุ ได้รับชื่อว่า ทากาอูจิ (高氏 ต่อมาเปลี่ยนตัวอักษรจาก 高 เป็น 尊 อ่านว่า ทากะ เช่นเดิม เนื่องจากตรงกับพระนามของพระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะ)
ตระกูลอาชิกางะสืบเชื้อสายมาจากตระกูลเซวะเก็นจิ (ญี่ปุ่น: 清和源氏; โรมาจิ: Seiwa Genji) เช่นเดียวกับมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ปฐมโชกุนแห่งรัฐบาลคามากูระ บรรพบุรุษของตระกูลอาชิกางะตั้งรกรากที่เมืองอาชิกางะ ในแคว้นชิมตสึเกะ หรือจังหวัดโทจิงิในปัจจุบัน
การฟื้นฟูปีเค็มมุ
[แก้]การล่มสลายของรัฐบาลคามากูระ การฟื้นฟูอำนาจของราชสำนักเมืองเกียวโต และการขึ้นสู่อำนาจของทากาอูจิ ถูกกล่าวถึงอย่างละเอียดในวรรณกรรมเรื่อง "ไทเฮกิ" (ญี่ปุ่น: 太平記; โรมาจิ: Taiheiki) ปี ค.ศ. 1331 ซาดาอูจิผู้เป็นบิดาเสียชีวิต ทากาอูจิจึงขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลอาชิกางะต่อจากบิดา ในปีเดียวกันนั้น พระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะทรงวางแผนยึดอำนาจคืนจากรัฐบาลคามากูระกลับมาสู่ราชสำนักเกียวโต แต่ทว่าแผนการกลับรั่วไหล รัฐบาลคามากูระจึงปลดพระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะออกจากราชสมบัติ เนรเทศพระจักรพรรดิไปประทับยังหมู่เกาะโอกิ และตั้งพระจักรพรรดิโคงงขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่แทน พระโอรสของพระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะ คือ เจ้าชายโมรินางะ (ญี่ปุ่น: 護良親王; โรมาจิ: Morinaga-shinnō) และซามูไรคูซูโนกิ มาซาชิเงะ (ญี่ปุ่น: 楠木正成; โรมาจิ: Kusunoki Masashige) ยังคงทำสงครามเพื่อล้มการปกครองของตระกูลโฮโจอันมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคามากูระต่อไป เรียกว่า สงครามปีเก็งโก (ญี่ปุ่น: 元弘の乱; โรมาจิ: Genkō no ran) ซามูไรจำนวนมากซึ่งไม่พอใจการปกครองเผด็จการของตระกูลโฮโจจึงมาเข้ากับฝ่ายจักรพรรดิ
จนกระทั่งในค.ศ. 1333 องค์อดีตจักรพรรดิโกะ-ไดโงะเสด็จหลบหนีจากหมู่เกาะโอกิมาได้ รัฐบาลคามากูระจึงส่งทากาอูจิ ยกทัพจากภูมิภาคคันโตไปต่อสู้กับทัพฝ่ายพระจักรพรรดิ แต่ทว่าระหว่างที่เดินทัพนั้น ทากาอูจิได้รับพระราชสาสน์ลับจากอดีตพระจักรพรรดิ เชื้อเชิญให้เข้าร่วมกับฝ่ายของพระองค์เพื่อล้มรัฐบาลโชกุน ทากาอูจิแปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายจักรพรรดิ นำทัพเข้ายึดเมืองเกียวโตและถวายให้แก่พระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะ และปีเดียวกัน นิตตะ โยชิซาดะ (ญี่ปุ่น: 新田義貞; โรมาจิ: Nitta Yoshisada) ยกทัพเข้ายึดเมืองคามากูระได้ โฮโจ ทากาโตกิ (ญี่ปุ่น: 北条高時; โรมาจิ: Hōjō Takatoki) ผู้นำตระกูลโฮโจคนสุดท้าย ทำการเซ็ปปูกุเสียชีวิต เป็นอวสานแห่งตระกูลโฮโจและรัฐบาลโชกุนคามากูระ
เหตุผลที่ทากาอูจิแปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายพระจักรพรรดินั้นไม่ปรากฏชัด ในวรรณกรรมเรื่องไทเฮกิกล่าวว่า ทากาอูจิมีความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตระกูลอาชิกางะ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากตระกูลมินาโมโตะ กลับต้องตกอยู่ใต้อำนาจของตระกูลโฮโจ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากตระกูลไทระ[1]
จักรพรรดิโกะ-ไดโงทรงจัดตั้งการปกครองขึ้นที่เมืองเกียวโต เป็นการปกครองโดยองค์จักรพรรดิโดยตรง เรียกว่า การฟื้นฟูเค็มมุ (Kemmu Restoration) ทำให้เหล่าซามูไรไม่พอใจที่อำนาจการปกครองญี่ปุ่นจะไปตกอยู่แก่ขุนนางและราชสำนักอีกครั้ง ทากาอูจิปรารถนาที่จะดำรงตำแหน่งเป็นเซอิไทโชงุง (ญี่ปุ่น: 征夷大将軍; โรมาจิ: Seii Taishōgun) แต่พระจักรพรรดิโกะ-ไดโงะกลับแต่งตั้งพระโอรสของพระองค์เอง คือเจ้าชายโมรินากะ เป็นเซอิไทโชงุง ในค.ศ. 1334 อาชิกางะ ทาดาโยชิ ผู้เป็นน้องชายของทากาอูจิ ได้เดินทางไปทางตะวันออกไปยังเมืองคามากูระและจัดตั้งการปกครองขึ้นที่นั่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าชนชั้นซามูไรยังคงต้องการรัฐบาลโชกุน ฝ่ายทากาอูจิจึงสร้างข้อกล่าวหาว่าเจ้าชายโชกุนโมรินางะทรงก่อการกบฏต่อพระบิดา จึงทำการจับองค์ชายโมรินางะไปกุมขังไว้ที่เมืองคามากูระ ในค.ศ. 1335 โฮโจ โทะกิยุกิ (ญี่ปุ่น: 北条時行; โรมาจิ: Hōjō Tokiyuki) บุตรชายของโฮโจ ทากาโตกิ ก่อกบฏขึ้นที่เมืองคามากูระเพื่อคืนอำนาจให้แก่ตระกูลโฮโจ สามารถขับไล่ทาดาโยชิออกจากคามากูระ ทาดาโยชิทำการปลงพระชนม์เจ้าชายโมรินางะก่อนที่จะหลบหนีออกจากเมืองคามากูระ ทากาอูจิจึงยกทัพจากเมืองเกียวโตไปปราบกบฏที่เมืองคามากูระ และยึคามากูระคืนได้สำเร็จได้สำเร็จ
เมื่อปราบกบฎของตระกูลโฮโจได้แล้ว ทากาอูจิกลับปักหลักอยู่ที่เมืองคามากูระไม่กลับนครเกียวโต และสั่งสมกองกำลังของตน จักรพรรดิโกะ-ไดโงจึงทรงประกาศให้ทากาอูจิเป็นกบฎ และส่งนิตตะ โยชิซาดะ ยกทัพจากเกียวโตไปต่อกรทากาอูจิที่เมืองคามากูระแต่พบกับความพ่ายแพ้ ทากาอูจิจึงยกทัพกลับไปทางตะวันตกเพื่อเข้ายึดเมืองเกียวโตแต่พ่ายแพ้ต่อคูซูโนกิ มาซาชิเงะ และคิตาบาตาเกะ อากิอิเอะ (ญี่ปุ่น: 北畠顕家; โรมาจิ: Kitabatake Akiie) ขุนพลซามูไรผู้ภักดีต่อฝ่ายราชสำนัก ทำให้ทากาอูจิไม่สามารถเข้ายึดเมืองเกียวโตได้ ทากาอูจิหลบหนีไปยังเกาะคีวชู แต่ไม่นานก็สามารถรวบรวมกำลังพลจากคีวชู ยกทัพเข้าบุกยึดเมืองเกียวโตในยุทธการที่แม่น้ำมินาโตะ (ญี่ปุ่น: 湊川の戦い; โรมาจิ: Minatogawa-no-tatakai) ในค.ศ. 1336 คูซูโนกิ มาซาชิเงะ กระทำการเซ็ปปูกุเสียชีวิต ทัพของทากาอูจิเข้ายึดเมืองเกียวโต ตั้งจักรพรรดิโคเมียวขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของพระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ จักรพรรดิโกะ-ไดโงพร้อมทั้งขุนพลซามูไรเช่น นิตตะ โยชิซาดะ และคิตาบาตาเกะ อากิอิเอะ หลบหนีไปทางใต้และตั้งราชสำนักขึ้นใหม่ที่เมืองโยชิโนะ (ญี่ปุ่น: 吉野; โรมาจิ: Yoshino) เป็นพระราชวงศ์ฝ่ายใต้ สิ้นสุดการปกครองของจักรพรรดิในสมัยการฟื้นฟูเค็มมุ และเป็นจุดเริ่มต้นของสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ญี่ปุ่น: 南北朝; โรมาจิ: Nanboku-chō) อาชิกางะ ทากาอูจิ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเซอิไทโชกุนเมื่อค.ศ. 1338 เป็นจุดเริ่มต้นของรัฐบาลโชกุนมูโรมาจิ
สงครามปีคันโน
[แก้]โชกุนอาชิกางะ ทากาอูจิ ปกครองญี่ปุ่นร่วมกับอาชิกางะ ทาดาโยชิ ผู้เป็นน้องชาย อยู่เป็นเวลาประมาณยี่สิบปี โดยโชกุนทากาอูจิดูแลเรื่องการทหารในขณะที่ทาดาโยชิดูแลเรื่องการปกครอง จนกระทั่งในค.ศ. 1350 เกิดความขัดแย้งระหว่างทาดาโยชิกับสองพี่น้องตระกูลโค ซึ่งเป็นขุนพลคนสนิทซึ่งโชกุนทากาอูจิให้ความไว้วางใจ ได้แก่ โค โนะ โมโรนาโอะ (ญี่ปุ่น: 高師直; โรมาจิ: Kō no Moronao) และ โค โนะ โมโรยาซุ (ญี่ปุ่น: 高師泰; โรมาจิ: Kō no Moroyasu) โชกุนทากาอูจิได้แต่งตั้งให้โมโรนาโอะเป็นชิตสึจิ (ญี่ปุ่น: 執事; โรมาจิ: Shitsuji) หรือผู้แทนโชกุน สร้างความไม่พอใจแก่ทาดาโยชิ ซึ่งได้วางแผนลอบสังหารโมโรนาโอะแต่ไม่สำเร็จ โชกุนทากาอูจิทราบเรื่องจึงโกรธน้องชายของตนเองมาก ขับไล่ทาดาโยชิออกจากรัฐบาล โดยให้บุตรชายของตนคือ อาชิกางะ โยชิอากิระ (ญี่ปุ่น: 足利義詮; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiakira) เข้ามาดูและเรื่องการปกครองแทน ทาดาโยชิออกบวชเป็นพระภิกษุได้หนึ่งปีจนในค.ศ. 1351 จึงเข้าสวามิภักดิ์กับพระราชวงศ์ฝ่ายใต้ที่เมืองโยชิโนะ ซึ่งในขณะนั้นมีจักรพรรดิโกะ-มูรากามิทรงปกครองอยู่ เรียกว่า "สงครามปีคันโน" (ญี่ปุ่น: 観応の擾乱; โรมาจิ: Kannō no shōran) ทาดาโยชิยกทัพของฝ่ายใต้เข้าบุกยึดเมืองเกียวโต สังหารสองพี่น้องตระกูลโคในที่รบ ทากาอูจิและทาดาโยชิสองพี่น้องจึงเจรจาสงบศึกกัน โดยทาดาโยชิแปรพักตร์กลับมาเข้ากับฝ่ายรัฐบาลโชกุน โดยที่ทาดาโยชิเดินทางไปจัดตั้งการปกครองของตนเองขึ้นที่เมืองคามากูระในค.ศ. 1351 ทาดาโยชิเสียชีวิตอย่างกระทันหัน โดยถูกทากาอูจิพี่ชายวางยาพิษสังหารในปีค.ศ. 1352
ทากาอูจิ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1358 หลังจากดำรงตำแหน่งนานถึง 20 ปีโดย อาชิกางะ โยชิอากิระ บุตรชายได้ดำรงตำแหน่งโชกุนสืบต่อ
ครอบครัว
[แก้]- บิดา: อาชิกางะ ซาดาอูจิ (ญี่ปุ่น: 足利 貞氏; โรมาจิ: Ashikaga Sadauji)
- มารดา: อูเอซูงิ คิโยโกะ (ญี่ปุ่น: 上杉清子; โรมาจิ: Uesuki Kiyoko)
- พี่น้อง
- ภรรยาน้อย: บุตรสาวของ คาโกะ โมโตอูจิ
- มิไดโดโกโระ: อากาฮาชิ โทชิ (ญี่ปุ่น: 赤橋登子; โรมาจิ: Akahashi Tōshi) บุตรสาวของ โฮโจ ฮิซาโตกิ (ญี่ปุ่น: 北条久時; โรมาจิ: Hōjō Hisatoki)
- ภรรยาน้อย: เอจิเซ็น โนะ สึโบเนะ (ญี่ปุ่น: 越前局; โรมาจิ: Echizen no Tsubone)
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ John W. Hall, et al. The Cambridge History of Japan, Volume 3 Medieval Japan. Cambridge University Press, 2008.
ก่อนหน้า | อาชิกางะ ทากาอูจิ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สถาปนาตำแหน่ง | โชกุนแห่งมูโรมาจิบากูฟุ (ค.ศ. 1338 - ค.ศ. 1358) |
อาชิกางะ โยชิอากิระ |