คู่มือผู้ใช้ Apple Watch
- ยินดีต้อนรับ
- มีอะไรใหม่
-
- แอปบน Apple Watch
- เปิดแอป
- จัดระเบียบแอป
- ดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม
- บอกเวลา
- ไอคอนสถานะ
- ศูนย์ควบคุม
- ใช้โฟกัส
- ปรับความสว่าง ขนาดข้อความ เสียง และการสั่น
- ดูและตอบสนองต่อการแจ้งเตือน
- เปลี่ยนการตั้งค่าการแจ้งเตือน
- จัดการ Apple ID ของคุณ
- ใช้คำสั่งลัด
- ตั้งค่าการล้างมือ
- เชื่อมต่อ Apple Watch กับเครือข่าย Wi-Fi
- เชื่อมต่อกับหูฟังหรือลำโพงแบบบลูทูธ
- ส่งต่องานต่างๆ จาก Apple Watch
- ปลดล็อค Mac ของคุณด้วย Apple Watch
- ปลดล็อค iPhone ของคุณด้วย Apple Watch
- ใช้ Apple Watch โดยไม่มี iPhone ที่จับคู่กันอยู่
- ใช้ Apple Watch ของคุณที่มีเครือข่ายเซลลูลาร์
-
- ทั้งหมดเกี่ยวกับ Apple Fitness+
- สมัครรับ Apple Fitness+
- ตั้งค่า Apple Fitness+ บน Apple TV
- เลือกหาการออกกำลังกายและการฝึกสมาธิ Fitness+
- เริ่มออกกำลังกาย Fitness+
- ออกกำลังกายด้วยกันโดยใช้ SharePlay
- เปลี่ยนสิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอในระหว่างการออกกำลังกายหรือการฝึกสมาธิ Fitness+
- ดาวน์โหลดการออกกำลังกายของ Fitness+
-
- การตั้งปลุก
- ออกซิเจนในเลือด
- เครื่องคิดเลข
- ปฏิทิน
- รีโมทกล้อง
- เข็มทิศ
- รายชื่อ
- ECG
- การทานยา
- Memoji
- News
- กำลังเล่นอยู่
- เตือนความจำ
- หุ้น
- นาฬิกาจับเวลา
- นาฬิกานับถอยหลัง
- เคล็ดลับ
- เสียงบันทึก
- วอล์คกี้ทอล์คกี้
-
- เกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์
- Apple Pay
- ตั้งค่า Apple Pay
- ซื้อสินค้า
- ส่ง รับ และขอเงินผ่าน Apple Watch (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
- จัดการ Apple Cash (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
- ใช้บัตรในกระเป๋าสตางค์
- ใช้บัตรสมนาคุณ
- ชำระเงินด้วย Apple Watch บน Mac
- ใช้บริการโดยสาร
- ใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนมลรัฐของคุณ
- ใช้กุญแจดิจิทัล
- ใช้บัตรการฉีดวัคซีนโควิด-19
- สภาพอากาศ
-
- ออกกำลังกายด้วย Apple Watch
- เริ่มออกกำลังกายบน Apple Watch
- การตรวจจับการออกกำลังกายบนลู่วิ่ง
- สิ้นสุดการออกกำลังกายและตรวจสอบผล
- กำหนดการออกกำลังกายเอง
- ดูโซนอัตราการเต้นของหัวใจ
- ดูและแก้ไขตัวชี้วัดการออกกำลังกาย
- ตัวชี้วัดการวิ่งกลางแจ้ง
- ออกไปว่ายน้ำ
- ใช้อุปกรณ์ในยิมกับ Apple Watch
- ปรับการตั้งค่าการออกกำลังกายของคุณ
- นาฬิกาโลก
-
- VoiceOver
- ตั้งค่า Apple Watch โดยใช้ VoiceOver
- พื้นฐาน Apple Watch กับ VoiceOver
- การสะท้อนภาพของ Apple Watch
- ควบคุมอุปกรณ์ใกล้เคียง
- AssistiveTouch
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ใช้แป้นพิมพ์บลูทูธ
- ซูม
- บอกเวลาด้วยการตอบสนองโดยการสั่น
- ปรับขนาดข้อความและการตั้งค่าเกี่ยวกับภาพอื่นๆ
- ปรับการตั้งค่าการเคลื่อนไหว
- ตั้งค่าและใช้งาน RTT
- การตั้งค่าเสียงการช่วยการเข้าถึง
- ใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้วย Siri
- ปุ่มลัดการช่วยการเข้าถึง
- ลิขสิทธิ์
จัดการการตรวจจับการชนกันบน Apple Watch
ถ้า Apple Watch Series 8 หรือ Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) ของคุณตรวจพบเหตุรถชนกันรุนแรงมาก Apple Watch จะสามารถช่วยติดต่อกับบริการฉุกเฉินและแจ้งเตือนรายชื่อติดต่อฉุกเฉินให้กับคุณได้
เมื่อ Apple Watch ของคุณตรวจพบเหตุรถชนกันรุนแรงมาก นาฬิกาจะแสดงการเตือนและจะเริ่มโทรออกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติหลังจาก 20 วินาที นอกเสียจากว่าคุณเลือกที่จะยกเลิก แต่ถ้าคุณไม่ตอบสนอง นาฬิกาจะส่งเสียงข้อความเสียงหาบริการฉุกเฉินซึ่งจะแจ้งให้บริการฉุกเฉินทราบว่าคุณประสบเหตุรถชนกันรุนแรงมาก และส่งพิกัดละติจูดและลองจิจูดพร้อมรัศมีการค้นหาโดยประมาณให้กับบริการฉุกเฉิน
ในการโทรหาบริการฉุกเฉิน Apple Watch ของคุณหรือ iPhone ที่อยู่ใกล้เคียงต้องมีการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ หรือต้องเปิดใช้การโทรผ่าน Wi-Fi และมีสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุม
ถ้าสัญญาณเซลลูลาร์และ Wi-Fi ไม่ครอบคลุม และ iPhone 14 หรือ iPhone 14 Pro ขึ้นไปอยู่ใกล้กับ Apple Watch ของคุณ การแจ้งเตือนการตรวจจับการชนกันไปยังบริการฉุกเฉินอาจสื่อสารด้วย SOS ฉุกเฉินผ่านระบบดาวเทียม เมื่อมี SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple ใช้ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมบน iPhone 14 ของคุณ
หมายเหตุ: เมื่อตรวจพบเหตุรถชนกันรุนแรงมาก การตรวจจับการชนกันจะไม่แทนที่การโทรฉุกเฉินที่มีอยู่ด้วยวิธีการอื่น
เปิดใช้หรือปิดใช้การตรวจจับการชนกัน
การตรวจจับการชนกันจะเปิดอยู่ตามค่าเริ่มต้น คุณสามารถปิดใช้การเตือนและการโทรฉุกเฉินอัตโนมัติจาก Apple หลังจากประสบเหตุรถชนกันรุนแรงมากได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
เปิดแอปการตั้งค่า บน Apple Watch ของคุณ
ไปที่ SOS > การตรวจจับการชนกัน แล้วปิดใช้ โทรหลังจากเกิดรถชนกันรุนแรงมาก
โปรดดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple ใช้การตรวจจับการชนกันบน iPhone หรือ Apple Watch เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หมายเหตุ: Apple Watch ไม่สามารถตรวจจับรถชนกันทั้งหมดได้
ดาวน์โหลดคู่มือนี้: Apple Books