ChowNow ต้องการทำเข้าใจความสามารถในการทำกำไร ผลกำไร และข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ต่อหน่วยทั้งในระดับลูกค้าและธุรกรรมได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องสร้างการผสานการทำงาน API หรือแชร์ข้อมูลกับกระบวนการ ETL

Stripe Data Pipeline ช่วยให้ ChowNow มองเห็นภาพรวมรอบด้านเกี่ยวกับร้านอาหารและลูกค้าได้ในแดชบอร์ดเดียวกัน และยังตรวจสอบได้อย่างง่ายดายว่าบริษัทเรียกเก็บค่าสมัครใช้บริการและคำสั่งซื้ออาหารจากใครและเป็นมูลค่าเท่าไหร่

นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับร้านอาหารในเครือ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับการฉ้อโกงโดยการมองหาสัญญาณของการฉ้อโกง เช่น การดึงเงินคืนโดยร้านอาหาร เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น การแจกแจงรายการผลกำไรสุทธิของร้านอาหารแต่ละแห่งยังช่วยให้ ChowNow ปรับเปลี่ยนค่าบริการของผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชันได้อย่างเหมาะสมและยกระดับประสิทธิภาพในการรักษาร้านอาหารให้อยู่กับแพลตฟอร์ม

เมื่อก่อน Lime ใช้กระบวนการ ETL ของบริษัทอื่นในการส่งออกข้อมูล Stripe ไปยังคลังข้อมูลของตัวเองและพบว่าข้อมูลที่ส่งออกไปนั้นไม่ได้ตรงกับข้อมูลใน Stripe เสมอไป ผลก็คือ วิศวกรข้อมูลต้องมาตรวจสอบความไม่ตรงกันในแต่ละจุดและเสียเวลาไปถึง 2 ชั่วโมงต่อธุรกรรมที่ไม่สอดคล้องกันแต่ละรายการ

การหันมาใช้ Stripe Data Pipeline ช่วยให้ Lime ประหยัดเวลาดำเนินงานด้านวิศวกรรมได้หลายสัปดาห์ เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างและดูแลรักษา API สำหรับแต่ละชุดข้อมูลของ Stripe อีกทั้ง Lime ยังเข้าถึงข้อมูล Stripe ในปัจจุบันได้ทันทีจากคลังข้อมูลของตัวเองโดยตรง อีกทั้งตอนนี้ฝ่ายการเงินของ Lime ยังติดตามการคืนเงินได้เกือบจะแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้พวกเขารายงานสถานะเงินสดล่าสุดของบริษัทได้อย่างมั่นใจ ส่วนทีมการฉ้อโกงของ Lime ยังได้ประโยชน์จากโมเดลการฉ้อโกงที่ปรับปรุงดีขึ้นด้วย